“ฟินแลนด์” ได้ชื่อว่าเป็น “ประเทศที่ผู้คนมีความสุขมากที่สุดในโลก” โดยการจัดอันดับของเครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDSN) ในสังกัดสหประชาชาติ ซึ่งล่าสุดในปีนี้ ก็ยังคงครองบัลลังก์อันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เข้าไปแล้ว
การจัดอันดับดังกล่าววัดจาก 6 ปัจจัย คือ การสนับสนุนทางสังคม รายได้ต่อหัวประชากร สุขภาพร่างกายและจิตใต เสรีภาพ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการปราศจากคอร์รัปชัน
เฮลี จิเมเนซ ผู้อำนวยการอาวุโสของสำนักธุรกิจฟินแลนด์ กล่าวว่า ไม่มีความลับอะไรอยู่เบื้องหลังความสุขของชาวฟินแลนด์ แต่เป็น “ทักษะที่สามารถเรียนรู้ได้”
แต่แม้จะบอกกันอย่างนี้พวกเราหลายคนก็อาจยังนึกภาพไม่ออกอยู่ดีว่า การใช้ชีวิตในประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกมันเป็นยังไง ซึ่งฟินแลนด์ก็สังเกตเห็นในจุดนี้ จึงประกาศ “แจกทริปฟรี” ให้กับคนจากทั่วโลกที่สนใจจะมาเรียนรู้วิถีชีวิตอิ่มสุขของชาวฟินแลนด์ เพื่อถ่ายทอดปรัชญาและความสมดุลของชีวิตแบบชาวฟินแลนด์ให้ผู้ที่สนใจ
โครงการถ่ายทอดความรู้นี้ใช้ชื่อว่า “Masterclass of Happiness” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายนปีนี้ ที่คูรูรีสอร์ต (Kuru Resort) สถานที่พักผ่อนสุดหรูริมทะเลสาบทางตอนใต้ของฟินแลนด์
คลาสถ่ายทอดความเป็นฟินแลนด์ 4 วันนี้ จะประกอบไปด้วย 4 หัวข้อ คือ ธรรมชาติและไลฟ์สไตล์, สุขภาพและสมดุล, การดีไซน์กับชีวิตประจำวัน และอาหารกับสุขภาวะ ซึ่งจะมีโค้ชผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำและดูแลแบบใกล้ชิด
“ฟินแลนด์” ครองแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุด 6 ปีซ้อน
20 มีนาคม “วันความสุขสากล” ร่วมตระหนักความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ คำพูดจาก สล็อต777
เมื่อรวมกับวันเดินทางไป (11 มิ.ย.) และวันเดินทางกลับ (16 มิ.ย.) ทำให้นี่เป็นทริปฟินแลนด์ 6 วันเต็มที่นอกจากจะได้สัมผัสความเป็นฟินแลนด์แบบถึงพริกถึงขิงแล้ว ยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลยด้วยไม่ว่าจะเป็นค่ากินค่าอยู่
ทั้งนี้ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้รับสิทธิพิเศษนี้ เพราะโครงการ Masterclass of Happiness จะรับผู้โชคดีเพียง 10 คนจากทั่วโลกเท่านั้น
สำหรับขั้นตอนการสมัครมี 2 ส่วน คือกรอกข้อมูลส่วนตัว และทำคลิปชาเลนจ์บนอินสตาแกรมหรือ TikTok ภายใต้โจทย์ “แสดงให้เราเห็นสิ่งที่ทำให้คุณเชื่อว่าคุณอาจเป็นชาวฟินแลนด์”
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ https://www.visitfinland.com/en/find-your-inner-finn/apply-for-masterclass/ โดยเงื่อนไขผู้มีสิทธิ์สมัครก็ไม่ได้ยุ่งยาก แค่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อน/คนในครอบครัว 1 คนก็ได้
นอกจากนี้ ทางโครงการแนะนำว่า ควรเป็นผู้ที่ไม่กลัวจะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ควรไปในฐานะปัจเจกไม่ใช่แบรนด์หรือบริษัท และยินยอมให้บันทึกภาพและประสบการณ์ขณะเข้าร่วมโครงการ
ใครที่สนใจก็อาจจะต้องรีบกันหน่อย เพราะจะหมดเขตรับสมัครในวันที่ 2 เมษายนนี้แล้ว คงเป็นเรื่องน่ายินดีหากมีคนไทยได้ไปสัมผัสความสุขแบบชาวฟินแลนด์ แล้วนำประสบการณ์นั้นกลับมาแชร์
เรียบเรียงจาก CNBC / Visit Finland
ภาพจาก Visit Finland