นายสราวุธเล้าประเสริฐอุปนายกสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทยเปิดเผยว่าภาพรวมการลงทุนในอุตสาหกรรมคลังสินค้าอัจฉริยะหรืออินทราโลจิสติกส์ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องตามสภาวะการลงทุนของประเทศไทยและการเพิ่มขึ้นของดีมานด์ในตลาดโดยคาดว่าในปีนี้จะขยายตัวราว10-15%เทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ8,000ล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ส่วนในปี2565ที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง6,000-8,000ล้านบาทเติบโตจากปี2564ประมาณ5-8%ด้วยแรงหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวบวกกับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC)มีความคืบหน้ามากขึ้นจึงมีการลงทุนทางด้านอินทราโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ปกติการลงทุนระบบดังกล่าวอยู่ที่ 10-20ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจที่ทำให้ระบบอินทราโลจิสติกส์เติบโต ได้แก่ ฟู้ดรีเทล ค้าปลีกค้าส่ง อีคอมเมิร์ซ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มใหม่ที่เข้ามา คือ ภาคการผลิตของ อีอีซี โดยระบบดังกล่าวถือว่า มีบทบาทสำคัญในการขนส่งวัสดุภายในโรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า บริการพัสดุ โกดังสินค้าเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ ความยั่งยืน ลดต้นทุน และการดำเนินงานต่างๆของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
นายHANS STOTERกรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียของMesse Stuttgartผู้จัดงานLogiMAT | Intelligent Warehouse 2023กล่าวว่าปีนี้บริษัทจึงพร้อมจัดงานแสดงสินค้าสุดยอดเทคโนโลยีระบบคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบจัดการโดยเป็นความร่วมมือที่แข็งแกร่งของพันธมิตรจากหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นEuro Expoเจ้าของLogiMAT Germany, Expolink Global Network, Messe Stuttgartรวมถึงสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทย(TIA)ได้เดินหน้าจัดงานLogiMAT | Intelligence Warehouse 2023ที่จะเป็นตัวกลางสำคัญในการเพิ่มพูนความรู้กับผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ขณะเดียวกันจะสามารถสร้างเครือข่ายการค้าผ่านการเจรจาธุรกิจได้ด้วยเช่นกันผ่านการรวมตัวกันของบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำจากหลายประเทศเพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระหว่างประเทศในอนาคตอาทิคลังสินค้าเสมือนจริงการสาธิตการทำงานของเทคโนโลยีรถยกระดับโลกรวมถึงกิจกรรมใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเป็นปีแรกอย่างเทคโนโลยีCold Chain
สำหรับงานLogiMAT | Intelligent Warehouse 2023ที่จะมีขึ้นในวันที่25-27ตุลาคม2566ณอิมแพ็คเมืองทองธานีถือเป็นแพลตฟอร์มงานด้านคลังสินค้าอัจฉริยะที่ตอบโจทย์จากการเป็นพื้นที่ที่เอื้อมถึงได้จากทั่วทั้งภูมิภาคที่เชื่อมต่อกับตลาดทั้งในเวียดนาม,มาเลเชีย,กัมพูชา,อินโดนีเซียและอื่นๆอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่กำลังเติบโตในแง่ของขนาดและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีโลจิสติกส์จากการจัดตั้งของโรงงานGlobal Supply Chainขนาดใหญ่ทั้งในตัวกรุงเทพมหานครและพื้นที่ภาคตะวันออกของไทยคาดว่ามีผู้ร่วมงาน6,000คนสร้างยอดขายภายในงาน1,000-1,200ล้านบาท